วัดระดับความฉลาดทางด้านการบริหารเงิน...ในตัวคุณ



     คุณเคยสงสัยตัวเองบ้างหรือไม่ว่า ความฉลาดทางด้านการบริหารเงิน ของคุณอยู่ในระดับไหน พอที่จะแก้ปัญหาทางการเงิน ที่คุณจะต้องเจอได้หรือไม่

 ในหนังสือของ Robert T. Kiyosaki ได้บอกไว้ว่าความฉลาดทางการเงินสามารถวัดได้จากความสามารถใน 5ประการสำคัญ
ดังนี้
 

ความฉลาดในด้านการทำเงินให้มากขึ้น

                     
                   โดยปรกติแล้วความฉลาดในด้านนี้มีกันอยู่แล้วทุกคน อยู่ที่ว่าใครจะมีมากหรือน้อยเท่านั้นเอง สามารถวัดได้โดยตรงจาก เงินหรือรายได้ที่หามาได้ของแต่ละคน  และแน่นอนว่าคนที่ทำเงินได้มาก ย่อมมี”ความฉลาดในด้านการทำเงินให้มากขึ้น”   มากว่าคนที่ทำเงินได้น้อย อย่างแน่นอน   ลองสังเกตดูว่า มีหลายคนที่เรียนเก่งมาก ความรู้ความสามารถทางวิชาการสูง  แต่ทำไมไม่สามารถทำเงินได้ตามความความฉลาดที่เขามีได้    แต่บางคนเรียนไม่สูง หรือเรียนไม่เก่ง แต่กลับทำเงินให้กับตัวเองได้มากมายมหาศาล อย่างเช่น เฮียตัน แห่งอิชิตันเป็นต้น
สิ่งนี้เหล่านี้แหละครับคือสิ่งที่บ่งบอกถึง “ความฉลาดในด้านการทำเงินให้มากขึ้น ” นั่นเอง

ความฉลาดในด้านการปกป้องเงินที่หามาได้

              
               ข้อนี้วัดได้จากเมื่อคุณมีความสามารถหาเงินมาได้แล้ว แล้วต่อจากนั้นคุณสามารถปกป้องเงินที่หามาได้มากแค่ไหน ในเรื่องต่างๆโดยเฉพาะสิ่งที่คุณไม่อาจหลีกเลื่ยงได้นั้นคือ ”ภาษี” นั่นเอง หากคุณมีความฉลาดในด้านนี้มากพอ เงินที่คุณหามาได้ก็จะไม่สูญเสียไปมากมายนัก  แต่ถ้าหากขาดความรู้ในด้านนี้แล้วถึงคุณสามารถหาเงินมาได้มากเท่าไรก็ตาม คุณก็ต้องจ่ายเงินไปในจำนวนที่มากขึ้นตามรายได้ของคุณอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง และคนที่เอาไปไม่ใช่ใครที่ไหน “รัฐบาลของคุณ” นั่นเอง

ความฉลาดในด้านการจัดทำงบประมาณให้เงินของคุณ

        
                 การทำงบประมาณ เป็นเรื่องที่ต้องใช้ความฉลาดทางการเงินสูงขึ้นอีกหน่อย หลายคนหาเงินมาได้มากมายแต่ก็ใช้จ่ายไปจนหมด โดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหมดไปทางไหนบ้าง สิ่งเหล่านี้บอกถึงการขาดทักษะในด้านการจัดทำงบประมาณนั่นเอง   เปรียบเทียบง่ายๆคือ นายA สามารถหาเงินได้มากถึงเดือนละ 80000 บาทแต่เขากลับใช้จนหมดเกลี้ยงโดยไม่ทราบสาเหตุ กับนายB เงินเดือน 30000 บาท แต่มีการจัดทำงบประมาณวางแผนการใช้จ่ายในแต่ละเดือน ทำให้มีเงินเหลืออีกเดือนละ 8000 บาทเป็นต้น
สิ่งสำคัญที่สุดของ “ความฉลาดในด้านการจัดทำงบประมาณ” ก็คือเมื่อจัดทำงบประมาณแล้วจะต้องมีเงินเหลือไปลงทุนให้งอกเงยต่อไปได้ด้วย อย่างนี้ถึงจะเรียกว่ามี  “ความฉลาดในด้านการจัดทำงบประมาณ”


ความฉลาดในด้านการสร้างพลังทวีให้กับเงินของคุณ

        หลังจากที่คุณมีเงินเหลือใช้แล้ว ความฉลาดขั้นต่อไปคือคุณสามารถสร้างพลังทวีให้กับเงินของคุณได้มากแค่ไหน  และวิธีที่คนส่วนใหญ่นั้นทำก็อย่างที่รู้ๆกันอยู่นั่นคือ”ฝากประจำ”กินดอกเบี้ยอันน้อยนิดนั่นเอง อันนี้ก็ยังถือว่าขาดทักษะในด้านนี้อยู่เพราะดอกเบี้ยที่ได้นั้นหากนำมาเปรียบเทียบกับอัตราเงินเฟ้อแล้ว ถือว่าเป็นการลงทุนที่ไม่คุ้มสักเท่าไรแถมดอกเบี้ยต้องเสียภาษีอีกต่างหาก แต่คนที่มีความฉลาดในด้านการสร้างพลังทวีเขาจะมีการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนอย่างงดงาม และสร้างพลังทวีให้กับเงินอย่างรวดเร็ว เช่น การลงทุนในหุ้น หรือกองทุนรวม อสังหาริมทรัพย์ ทองคำ อะไรต่างๆตามทักษะความสามารถของแต่ละคน สิ่งเหล่านี้ถึงจะเรียกได้ว่ามีความฉลาดในด้านการสร้างพลังทวีให้กับเงิน


ความฉลาดในด้านการจัดการข้อมูลข่าวสารด้านการเงิน


      เคยได้ยินไหมกับคำที่ว่า”จงเรียนรู้วิธีที่จะเดินให้ตรงทางเสียก่อน แล้วจึงค่อยออกวิ่ง” ทุกวันนี้มีข้อมูลข่าวสารทางการเงินมากมายในแต่ละวัน มีทั้ง โอกาสและหลุมพราง ที่ส่งมาถึงตัวเรา มีหลายๆคนมองเห็นโอกาสที่จะสร้างรายได้เพิ่มขึ้นมากมาย  แต่ก็มีหลายคนที่ตกหลุมพรางเสียเงินเสียทองไปมากมายเช่นกัน กับข้อมูลข่าวสารทางการเงินที่เข้ามา สิ่งเหล่านี้บอกถึง “ความฉลาดในด้านการจัดการข้อมูลข่าวสารด้านการเงิน” ของแต่ละคนเช่นกัน  ว่ามีความสามารถในการจัดการกับข้อมูลข่าวสารด้านการเงินมากน้อยแค่ไหน

หากคุณมีความฉลาดครบทั้ง 5 ประการ ก็ขอแสดงความยินดีด้วยกับความร่ำรวยที่กำลังจะตามมาในไม่ช้านี้  แต่ถ้าหากยังขาดทักษะทางด้านใดอยู่บ้างก็จะได้รู้และปรับปรุงแก้ไขกันต่อไปเพื่อ  “อิสระภาพทางการเงิน” นั่นเอง

      “อย่ากลัวล้มถ้ายังไม่ได้เริ่มเดิน   



--> -->