ปัญหาทางการเงินของ คนรวย-คนจน
สวัสดีครับวันนี้ผมจะเปรียบเทียบถึงปัญหาทางการเงินระหว่างคนจนกับคนรวย
คนจนในที่นี้หมายถึงผู้ที่ ไม่ว่าจะหาเงินมาได้มากเท่าไรแต่ก็ดูเหมือนกับยังไม่พอกับค่าใช้จ่ายในการใช้ชีวิต
มีปัญหาเงินไม่พอใช้อยู่เสมอ
ส่วนคนรวย หลายคนคิดว่าคนที่รวยแล้วคงไม่มีปัญหาทางด้านการเงิน
แต่ความเป็นจริงแล้วคนรวยก็ประสบพบเจอกับปัญหานั้นเหมือนกัน
แต่เป็นในทางตรงกันข้ามกับคนจน ผมได้ลองเอาปัญหาของทั้งคนจนและคนรวยมาให้ท่านได้ดูและลองเปรียบเทียบดูว่าท่านอยากเจอปัญหาแบบไหน
ปัญหาของคนจน
1. มีเงินไม่พอใช้
2. แก้ปัญหาเงินขาดมือด้วยเครดิต
3. ต้นทุนชีวิตสูงขึ้นตามรายได้
4. เสียภาษีมากขึ้นตามรายได้
5. กลัวเหตุการณ์ฉุกเฉิน
6. ได้รับคำแนะนำที่แย่ๆเกี่ยวกับการเงิน
7. มีเงินไม่พอใช้ในยามเกษียณ
ปัญหาของคนรวย
1. มีเงินมากเกินไป
2. ต้องการเก็บเงินในที่ปลอดภัยและต้องการลงทุน
3. ดูไม่ออกว่าคนรอบข้างรักเขาหรือเงินของเขากันแน่
4. ต้องหาที่ปรึกษาทางการเงินที่เก่ง
5. กลัวลูกๆจะเสียคนเพราะเงิน
6. กลัวภาษีจากทรัพย์สินและมรดก
7. การจ่ายภาษีที่มากเกินไป
เห็นหรือยังครับว่าปัญหาเรื่องเงินของคนจนกับคนรวยนั้นแตกต่างกันสิ้นเชิง
แต่ปัญหาของทั้งคนรวยและคนจนนั้น มีวิธีแก้ปัญหาที่เหมือนกันนั่นคือ
“ความฉลาดทางการเงิน”
คนส่วนใหญ่ยังไม่ถูกพัฒนาในด้านความฉลาดทางการเงิน
จึงยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาของตนเองได้
และเมื่อไม่สามารถแก้ได้ปัญหานั้นก็ยังคงอยู่และทับถมเพิ่มขึ้นทุกวันจนกลายเป็นปัญหาใหญ่และร้ายแรงโดยไม่ทันรู้ตัว
เมื่อพวกเขาแก่ตัวลงไม่ใช่เพียงแค่ค่าใช้จ่ายประจำวันเท่านั้น พวกเขายังต้องการเงินไว้รักษาพยาบาลยามเจ็บป่วยอีกต่างหาก
ยังไม่รวมถึงหนี้สินก้อนโตในขณะเดียวกับรายได้ที่เคยได้รับก็ลดน้อยลงเรื่อยๆ
สุดท้ายแล้วไม่ว่าเราจะชอบหรือไม่
เราก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเงินนั้นคือตัวกำหนดต่อคุณภาพชีวิตและวิถีการใช้ชีวิตของเราเสมอ
เราจะได้รับความสะดวกสบายในชีวิต เดินทางด้วยรถยนต์ชั้นดี
มีการรักษาพยาบาลชั้นหนึ่ง หรือ ต้องอยู่แบบไม่มีทางเลือก เช่าห้องรายเดือน นั่งรถเมล์ฟรี
กินมาม่า ปลากระป๋อง “เงิน” เท่านั้นคือตัวกำหนดความแตกต่างเหล่านั้นให้กับคุณ
และการที่จะหาเงินและบริหารเงินนั้นให้งอกเงยขึ้นมาได้นั้นสิ่งสำคัญที่สุด
ที่ทุกคนต้องมีคือ”ความฉลาดทางการเงิน”นั่นเอง
ส่วนจะมีรายละเอียดของ ความฉลาดทางการเงิน จะเป็นอย่างไรนั้นโปรดติดตามต่อในบทความต่อไปนะครับ
